10 ขั้นตอนซื้อของบน eBay อย่างฉลาด

ผมคงไม่ต้องอะรำพบทกันมากว่า eBay คืออะไร ผมเชื่อว่าเราต่างก็เคยได้ยินถึงชื่อเสียงของเว็บนี้กันดี ว่ามันคือเว็บ E-Commerce ที่ทำรายได้ถล่มทลายเป็นเว็บแรกๆ ของโลก (ทำรายได้ให้ทั้ง eBay และผู้ขายรายย่อย) แถมยังเปลี่ยนโฉมวงการการซื้อขายออนไลน์กันไปแบบไม่สามารถหวนกลับมาได้อีก เลย
eBay เดี๋ยวนี้เป็นเหมือนที่นัดพบระหว่างผู้ขายหรือผู้ผลิตพบผู้ซื้อที่เปิดตัวมา ได้กว่า
10 ปี ดั่งเดิมสร้างขึ้นมาเพื่อการประมูล (bidding) หรือซื้อขายสินค้ามือสอง เหมือนกับ Thaisecondhand.com แต่ต่างที่ eBay จะมีการเก็บเงินกับผู้ขายสำหรับการนำสินค้ามาลง (Listing Fees)

eBay ซื้อง่ายขายคล่อง

เนื่องจากความนิยมอย่างถล่มทลายของ eBay ทำให้เดี๋ยวนี้เว็บประมูลเจ้าเก่านี้ มีสินค้าแทบจะทุกอย่างทั้งเก่าใหม่ ห้างร้านชื่อดังมากมายก็ยังมาเปิดร้านบน eBay เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย แถมสินค้าส่วนใหญ่ก็มีราคาถูกกว่าซื้อตามร้านออนไลน์อื่นๆ ทั่วไปมาก อย่างว่าแหละ ที่ไหนคนขายเยอะ ที่นั่นก็ยิ่งต้องหั่นราคากันน่าดูชม ยังไม่พูดถึงระบบการซื้อขายที่ใช้ง่าย และระบบจัดการส่วนตัวที่ดีเยี่ยม

ระบบจัดการบน eBay ที่จะมีประวัติการซื้อที่ดูเข้าใจง่ายมาก

จะว่าไปแล้ว ก็คงจะหาตลาดออนไลน์ในเมืองนอกที่ไหนมาให้ความรู้สึกที่ดีเหมือนได้เดิน สะพานพุทธแล้วไปเจอของชอบในราคาเหมือนได้ฟรี คงไม่มีอีกแล้ว เดี๋ยวนี้ผมเองเวลาจะซื้อเครื่องอุปโภคอะไรที่เป็นของนอกหรืออุปกรณ์ไฮเทค ต่างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะลองเข้าไปดูที่ eBay ก่อนทุกทีไป

eBay ความเรื่องมากที่มีประโยชน์

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ eBay เป็นอันดับหนึ่งก็คือ ความปลอดภัยในการซื้อขาย ด้วยระบบ การไกล่เกลี่ยปัญหา กับระเบียบที่เคร่งครัดที่สามารถสร้างความสงบสุขของสมาชิกส่วนใหญ่ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ซื้อที่ eBay ต้องง้อเป็นพิเศษ
ถ้าคุณต้องการที่จะหาซื้อสินค้าราคาถูกที่มีทางเลือกให้มากมายในการซื้อ ขาย สามารถเลือกดูสภาพสินค้า (จากภาพออนไลน์) เลือกราคา เลือกวิธีการส่งสินค้า วิธีการจ่ายเงิน หรือการรับของทุกอย่างบนโลกออนไลน์ทั้งหมด
ที่สำคัญที่สุดคือ คุณสามารถเลือกซื้อขายกับเฉพาะผู้ขายหรือผู้ซื้อที่น่าเชื่อถือเท่านั้นได้ อีกด้วย ซึ่งก็คือหนึ่งในเรื่องหลักของการซื้อสินค้าบน eBay อย่างฉลาดที่ผมจะมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ เพราะอย่างที่รู้กันว่า ที่ไหนมีคนเยอะ ที่ไหนหาเงินได้เยอะ ก็ย่อมมีมิชฉาชีพเข้ามาปะปนมากมาย พร้อมๆ กับพวกที่ชอบแอบแฝงเอาความไว้ใจของคนอื่นมาทำให้เสียหาย มาดูปัจัยทั้ง 10 ข้อที่จะเป็นขั้นตอนง่ายๆ ในการซื้อสินค้าบน eBay อย่างฉลาดหลักแหลมกันเลย

1. Worldwide Shipping?

ก่อนอื่นทุกครั้งเวลาผมเจอสินค้าที่อยากได้ สิ่งที่จะเข้ามาดูเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ผู้ขายส่งทั่วโลกหรือไม่ ถ้าไม่เขาจะระบุประเทศเอาไว้ซึ่งถ้าของนั้นผมไม่ได้อยากได้มากขนาดนั้น ผมก็จะผ่านไปเลย แต่ถ้าต้องซื้อให้ได้ ก็ค่อย contact ผู้ซื้อคนนี้อีกที เผื่อเขาจะไม่ได้ตั้งใจระบุเจาะจงประเทศเอาไว้

ถ้าเป็น worldwide ให้เลื่อนลงมาอีกหน่อยให้เลือกไทยเพื่อดูค่าส่ง บางคนคิดค่าส่งโหดเกิน

2. Feedback Score

นี่คือสิ่งที่ทำให้ eBay โด่งดัง คือคะแนนความน่าเชื่อถือของสมาชิกทุกคน ซึ่งจะมีสองหน่วย หน่วยแรกคือ Feedback Score หรือจำนวนการค้าขายบน eBay ซื้อขายไป 500 ครั้งก็จะได้ 500 คะแนน ที่นอกจากจะบ่งบอกถึงความมีประสบการณ์ของผู้ขายแล้ว เมื่อเอาคะแนนตรงนี้มาดูรวมกับหน่วยที่สอง Positive Feedback% ก็จะเห็นได้ว่า ควรจะไว้ใจผู้ขายคนนี้หรือไม่ ตามในภาพนี้ถือว่าอยู่ในระดับโอเค ไม่ดี ไม่เลว แต่ถ้ามีคนขายอื่นๆ ขายอีก ผมจะไม่ซื้อจากคนนี้ เพราะ Positive Feedback ผู้ขายที่น่าไว้ใจควรจะอยู่ที่ 98-100% ซึ่งก็มีมากมายแถมยังมี Feedback Score เป็นพันๆ หมื่นๆ ก็มี
นอกจากนั้น score ก็มีสองแบบ คือ score จากการซื้อ และการขาย ถ้าให้ดีคุณเป็นผู้ซื้อ ก็ต้องเข้าไปดู score ของเจ้าของสินค้าจากการขายคลิกเข้าไปจะเห็นเอง จะมีคนเข้ามาคอมเม้นต์คนขายคนนี้มากมาย

3. ผู้ขายอยู่หนใด

หลังจากดูข้อ 1 และ 2 ไปแล้ว ทีนี้ก็มาดูว่าผู้ขายนั้นอยู่ที่ประเทศใด เพื่อจะได้รู้ว่าสินค้าควรจะมาถึงเมื่อไหร่ อย่างที่ US ส่งแบบธรรมดาๆ First Class USPS ก็จะนานสุดเกือบๆ เดือน รองลงมาก็จะเป็น Priority Mail ที่จะเร็วปานกลางประมาณไม่เกิน 2 อาทิตย์ และ Express Mail ที่จะเร็วเหมือนอยู่แถวบ้านคือประมาณ 3-4 วันทำการ ถ้าผู้ขายอยู่ประเทศเพื่อนบ้านก็ให้ส่งแบบธรรมดาๆ ก็พอครับ อาทิตย์กว่าๆ เท่านั้นก็น่าจะถึง

4. มีคนมาประมูลกันหรือยังหรือซื้อได้เลย

ข้อนี้ก็จะดูว่ามีคนเข้ามา Bid กันหรือยัง เพื่อราคาสินค้าที่เห็นมักจะเป็นราคาที่ยังไม่จบ นอกจากผู้ขายจะลงสินค้าแบบ Buy It Now เอาไว้แบบซื้้อได้โดยไม่ต้องสู้ Bid กัน แต่ถ้าผู้ขายลงไว้สองแบบ เมื่อมีผู้เข้ามา Bid รายการจะปิด Buy It Now อัตโนมัติให้เหลือแต่ประมูลอย่างเดียวเท่านั้น

5. ดูเวลาที่เหลือ

ในส่วนนี้ต้องดูร่วมกับจำนวน Bid ในข้อ 4 เพราะมันเกี่ยวเนื่องกันเสมอ ยิ่งวันเหลือน้อย ราคาที่เห็นก็จะใกล้ความจริงมากเท่านั้น ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบ Bid ให้รอจนนาทีสุดท้ายก่อน ไม่งั้นคนอื่นจะรู้ตัวแล้วทำให้ราคามันสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่ต้องการแบบนั้น

6. ดูการรับประกัน

ถ้าผู้ขายมีเครดิตที่ดี มี Feedback Score 100 ขึ้น ผู้ขายผู้นั้นจะสามารถให้การคุ้มครองผู้ซื้อได้ในกรณีที่ซื้อสินค้าเสียหาย สินค้าไม่ตรงตามต้องการ คุณจะได้รับเงินคืนแบบไม่ต้องเหงื่อตก

7. อ่านรีวิวสินค้าก่อนเลือกซื้อ

ก่อนซื้อแน่นอนว่า ต้องให้แน่ใจจริงๆ ก่อน ว่าเป็นสินค้าที่ต้องการ ค้นดู Google ดูข้อมูลให้ดีก่อน เพราะบน eBay มีระเบียบเคร่งครัด ถ้าคลิกซื้อแล้วไม่จ่ายจะเป็นเรื่องได้

8. ถ้าไม่แน่ใจ อย่าซื้อ

ถ้าเห็นสินค้าที่ชอบแล้ว แต่ดูแล้ว มันรู้สึกทะเม่งๆ ถึงเครดิตผู้ขาย หรือในสภาพสินค้า อย่าด่วนรีบซื้อเพียงเพราะราคาถูกหรือหาไมได้ อาจจะเจอกับสถาณการณ์ปวดหัวไปอีกหลายเดือน คนเราพอเห็นของถูกมากก็จะกระโจนเข้าใส่ แต่สำหรับบนโลกออนไลน์แล้ว ถ้ามันฟังดูน่าเหลือเชื่อ ส่วนใหญ่มันก็จะเชื่อไม่ได้ หลักการก็มีเท่านี้เองครับ ดังนั้นดูข้อ 2 ให้ดีก่อน

9. Bid 100 ครั้งชนะ 100 ครั้งด้วย Sniper

Sniper คือการ Bid แบบสายฟ้าฟาด มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวใน 5 วินาทีสุดท้าย เหมือนโดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา งง อึ้งไปพักใหญ่ คุณเองก็ทำได้ ด้วยระบบ Auctionsniper อ่านวิธีใช้ AuctionSniper และเกี่ยวกับ eBay

10. อย่าคิดว่าจะหาสินค้าไม่ได้อีกแล้ว

เมื่อเจอของถูกใจ อย่า!!! เพิ่งด่วนซื้อ อย่าเพิ่งคลิก Buy เพราะมันจะส่งผลเสียให้กับเครดิตคุณทันที ถ้าคุณเปลี่ยนใจไม่ซื้อ คุณควรมองหาต่อไปอีกซักพักก่อน แล้วดูอีกที แล้วก็ดูให้แน่ใจก่อนจะซื้อ

ที่มา techgot