(ผมเคยทำงานบริษัทเอกชนมาก่อน ผมถนัดการเขียนแบบโครงงานมากกว่า ไม่ค่อยถนัดเขียนแบบเล่าเรื่องเลย ขอเขียนแบบที่ตัวเองถนัดก่อนนะครับ)
เป้าหมาย
- เพื่อเพิ่มฟีดแบ๊คได้อย่างรวดเร็ว
- โดยใช้เงินลงทุนน้อยที่สุด
- เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ถูก remove สินค้า
0.01$ + Free shipping ให้เก๋หน่อย ก็ 0.02$, 0.03$ ตามสะดวกแต่ไม่ควรเกิน 0.05$
ที่เน้นหน่อยก็ Free shipping นี่แหละครับ จำเป็นที่สุด
และเราต้องลงของแบบนี้เพื่อให้ของเราขายได้ทุกชิ้น
ระยะเวลาขายของ
1 เดือน สมมุติว่าจบวันละ 2 ชิ้น 30 วัน มีสินค้าขายได้ 60 ชิ้น
ฟีดแบ๊คที่คาดว่าจะได้
+48up (60ชิ้น x 80%)
ต้นทุนต่อชิ้น
ค่าของ 0.25฿ + ซอง 1฿ + ค่าส่ง 18฿ + อื่นๆ 5.75 = 25฿
ต้นทุนทั้งเดือน
25 x 60 = 1500 บาท
บางคนอาจจะเห็นว่า 1500 บาทดูสูงจังเลย อันนี้ก็แล้วแต่พิจารณานะครบ ผมเห็นว่ายังมีอีกกลุ่มที่ต้องการขายของอย่างมั่นคง ลงทุนแค่ 1500 บาทมันก็เพียงพอที่จะซื้อความเชื่อมั่นจากลูกค้าและอีเบย์
การลงสินค้า
ลงแบบประมูล (Auction) 1, 3 ,5 หรือ 7 วัน ใช้ได้หมด ส่วนตัวผมจะใช้ 3, 5 และ 7 วันในกรณีที่มาลิสต์ของวันเดียว แต่ให้จบหลายๆ วัน
สินค้าจบต่อวัน
วันนึงควรวางแผนให้สินค้าจบ 2-3 ชิ้นต่อวัน ... คงสงสัยทำไมไม่ลงทีละ หลายชิ้น ไปเลยหล่ะ? นั่นแหละครับ ที่ไม่ควร อีเบย์เป็นพวกขี้สงสัย ผมไม่เคยลอง เกิดลงวันละ 20 ชิ้น ต่อเนื่องกัน อีเบย์สงสัยว่าคุณกำลังปั่นฟีดแบ๊คอยู่ โดนปิด account ทำไงหล่ะ .. ผมไม่เสี่ยงดีกว่า และอีกอย่าง ป้องกันพวกนักประมูลของถูก สมมุติวันนี้ของต้องจบ 10 ชิ้น แต่มีตาฝรั่งคนนึงชนะประมูลของไป 8 ชิ้น อีก 2 ชิ้นเป็นของอีก 2 คน อย่างนี้เท่ากับว่าฟีดแบ๊คที่เราจะได้ก็แค่ 3 คะแนนนะครับ เสียเวลา
เอาหล่ะครับมาถึงจุดที่ทุกคนรอคอยแล้ว ก็คือการหาสินค้าอย่างไรให้ตรงแผนที่เราวางไว้
จากที่ผมเขียนไว้ด้านบนเราต้องหาสินค้าที่มีมูลค่าฟรี จนไปถึง 0.25 บาท (1 สลึง)
มีตัวแปรเพิ่มเติมอีกนิดนึงคือ สินค้านั้นต้อง
- เก็บได้นาน ไม่เน่าไม่เสีย
- เบา น้ำหนักไม่ควรเกิน 10 กรัม เพราะต้องไปรวมซองแล้วน้ำหนักต้องไม่เกิน 20 กรัม
- เล็ก ขนาดใส่ซอง 4 1/2" x 7" ได้ (ซองนี้หาซื้อได้ตามห้าง C ตัวใหญ่ตกซองละ 1 บาท น้ำหนักประมาณ 7 กรัม)
พอจะนึกออกกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย อะไรเล็ก เบา เก็บได้นาน???
ผมจะลองให้ไอเดียไปนะครับ ลองนึกถึงลูกอมสิคับ ตรงคอนเซ็ปเราหรือเปล่า ... ผมว่าก็พอได้นะ 2 เม็ดบาท ตกเม็ดละ 0.5 บาท
แล้วถ้าสแตมป์หล่ะ ดวงละ 1-3 บาท ก็ยังแพงไปนะ แต่เบาแล้วเก็บได้นาน พอได้แล้วแหละ
ลองขบคิดอีกครับ
(ทิ้งสเปซไว้ให้คนอ่านได้คิด)
เฉลย ลองคิดถึงของที่ใช้เงินซื้อน้อยๆ แล้วได้เยอะๆ สิครับ ผมจะยกตัวอย่างเช่น ลูกปัด ซองนึง ไม่รู้กี่บาท ได้มาตั้งหลายเม็ด เอามานับเม็ดขายซะนะครับ เช่น เราขายลูกปัด 10 เม็ด
มาดูไอเดียอื่นครับ ... กระดุม เข็ม กระดาษสี(เอามาตัดแบ่งขาย)ไม้จิ้มฟัน คัดตันบัด สำลี ฝาน้ำอัดลม(ฟรี) เศษตั๋วรถเมล์(ฟรี) บัตรโทรศัพท์ใช้แล้ว หนังยาง อะไรอีกหล่ะ ณ จุดนี้นึกไม่ออกแล้ว ลองเดินตลาดๆดู ไอเดียจะมาทันทีเลยครับ
เอาเป็นว่าของดูไม่มีมูลค่าเลย จะขายออกหรอ
แน่นอนครับ ผมขายมาแล้ว ขายออก ฟีดแบ๊คดี แต่ตอนลงต้องบอกให้ชัดเจนว่ากี่ชิ้น เดี๋ยวลูกค้าจะเข้าใจผิดคิดว่า แทนที่จะได้ + กลับได้ - แทนซะนี่
ผมมั่นใจครับว่ายังมีคนที่ต้องการเพิ่มฟีดแบ๊คโดยที่ใช้เงินลงทุนน้อยๆ เหมือนกัน เค้าก็หันมาซื้อของถูกๆ ดูไม่มีมูลค่านี่แหละครับ
แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำกันเป็นอาชีพ พอถึงจุดนึงเราก็จะหยุดการขายสินค้าแบบนี้ แล้วเอาสินค้าหลักเรามาลงให้เต็มหน้า หรือจะเอาของเรียกฟีดแบ๊คแซมๆ กับของหลักก็ได้ แต่ลดปริมาณลงหน่อย
เทคนิคที่ผมใช้อย่างนึงคือ ผมจะให้ฟีดแบ๊คลูกค้าหลังจากที่ผมเปลี่ยนสถานะสินค้าเป็น "ส่งแล้ว" นะครับ ไม่รู้สิ ความคิดส่วนตัวคือว่า ถ้าเราให้ฟีดแบ๊คลูกค้าทันทีหลังจากที่ได้รับเงินมา มันเหมือนกับเรารีบทำอะไรบางอย่าง ดูน่าจับผิดอย่างมาก ไอ้ผมก็กลัวอีเบย์จะจับผิดลูกเดียว ทำอย่างนี้ก็ปลอดภัยดี แล้วไม่ต้องส่งเมล์ไปเตือนให้ลูกค้าให้ฟีดแบ๊คนะครับ อาจจะเป็นดาบสองคมได้
อีกอย่างหนึ่ง คือห้ามใส่คำพูดที่เกี่ยวกับฟีดแบ๊คเด็ดขาด ไม่งั้นของจะโดนเก็บ เช่นคำพูดที่ว่า ถ้าคุณให้ + มาเราจะให้ + กลับอย่างรวดเร็ว งดครับ เพื่อความปลอดภัย
จบแล้วครับ
สามารถเอาบทความไปเผยแพร่ได้ ต้องไม่ดัดแปลงแก้ไข โดยให้เครดิตผู้เขียนด้วยครับ