อันสุดท้าย ที่ผมแนะนำให้ตั้งก่อน เปิดร้านเพื่อช่วยให้ลูกค้า มั่นใจยิ่งขึ้นในการซื้อสินค้าจากเรา ก็คือ Your Info and Policies
เมื่อ
เข้าไปที่หัวข้อนี้ เราจะสามารถ ให้ข้อมูลกับลูกค้า ในด้านนโยบายต่าง ๆ
ของร้าน เช่น เงื่อนไข ในการรับคืนสินค้า เงื่อนไขในการส่ง หรือ
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าเราก็ได้
ไล่ทีละอันเลยนะครับ
About Seller
- ถ้าจะเทียบ ก็จะเหมือนกับ About us ตามเวปไซต์ขายของทั่วไป
เหมือนเป็นการแนะนำตัว เวลาที่เราจะไปขายของ หรือขายประกันให้ใคร
เราก็ควรจะบอกลูกค้า ก่อนไม่ใช่ว่า ดุ่ย ๆ ไปขายของให้เขา น้อยคนนัก
ที่จะซื้อเลย เว้นแต่ สินค้า กับราคามันยั่วใจเท่านั้น อย่างน้อย
ก็มาบอกเขาก่อน ว่าเราเป็นใคร โม้หน่อยก็ได้ ว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้
หรือ เราเป็นผู้ผลิตโดยตรง ลูกค้าจะได้เชื่อมั่น
การ
ใส่ ก็สามารถใส่ได้ 2 แบบ คือ Design View
พิมพ์ลงไปแล้วปรับการแสดงผลคล้ายกับ การทำด้วย Microsoft Word และ Code
View ที่ต้องใส่เป็นภาษา HTML ทำจาก Dream Weaver
แล้วเอาโค้ดมาแปะก็ได้ครับ แต่ต้องใช้ CSS Style แบบ inline เท่านั้นนะครับ
Seller Logo - อันนี้ จะให้โอกาสเรา ใส่รูปโลโก้ร้านได้ แต่ได้ขนาดแค่ 120 x 30 px นี่ต้องใช้แว่นขยายดูกันหน่อยล่ะ
กด Browse.. เพื่อเลือกรูป แล้วก็ Upload ขึ้นไปได้เลย
Shipping
- ก่อนหน้านี้ ที่เราทำการปรับค่าต่าง ๆ ใน Shipping Settings นั้น
เป็นการบอกระบบของ Amazon ว่าจะให้คิดค่าส่งอย่างไร แต่ลูกค้า
ไม่รู้เรื่องพวกนี้ด้วย ทาง Amazon ก็ให้โอกาส เรามาอธิบายไว้ตรงนี้
แต่ Shipping จะแบ่งออกเป็น 2 บล๊อค
อัน
บนคือ Shipping Policies Help Content: ให้เราอธิบายว่า
เราจะส่งสินค้าเรายังไง ส่งภายในกี่วันหลังจากรับเงิน ส่งผ่านบริษัทอะไร
อธิบายไว้ในช่องนี้ครับ
อันล่าง Shipping Rates Help Content: ก็อธิบายว่าเราคิดค่าส่งยังไง ราคาเท่าไหร่
ส่วนการใส่นั้น ก็เหมือน กับ About Seller
Privacy
- เราจะเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ายังไง ฝรั่งเขาหวงความเป็นส่วนตัว
และข้อมูลส่วนบุคคลกันมาก แต่คนไทยส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
(สารภาพว่า อันนี้ผมก็ Copy ของคนอื่นมาเหมือนกัน)
Gift Services
- บริการเสริม ว่าเราจะห่อเป็นของขวัญ แล้วส่งไปให้คนรับได้หรือเปล่า
(เหมือนมิส ลิลลี่ รับส่งดอกไม้ นั่นแหละ) ถ้าได้มีเงื่อนไขยังไง
ร้านใครขายสินค้า ที่คนมักจะส่งให้เป็นของขวัญกัน ตามช่วงเทศกาล
ควรมีบริการนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ในช่วงเทศกาลเลยล่ะครับ แต่ถ้าไม่มี
เราก็ควรบอกเขาไว้ด้วยว่า เราไม่มีบริการนี้
Tax - เราคิดภาษีการค้าหรือเปล่า ถ้าไม่คิด ก็บอก แต่ของไทย คงไม่คิดกันมั๊งครับ แต่ผมบอกไว้ตรงนี้
ว่า "สำหรับบางประเทศถ้ามีภาษีนำเข้า ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบเอง" ตามนี้ (ก๊อปเอาไปใช้กันได้เลยครับ)
Tax & Duties
Customers
in Custom-strict countries please contact us for detail on our policy.
If you have instruction on how your package should be labeled accordance
to your country's procedure.
Customer responds for tax or duties if there's any.
Frequently Asked Questions - ขาย ๆ ไป ลูกค้าก็มักจะมีคำถาม มาถามเรา เกี่ยวกับเรื่องโน้น เรื่องนี้
ถ้าคำถามไหน ถูกถามมาบ่อย ๆ ควรเอามาตอบไว้ในนี้เลยครับ เพราะถ้าลูกค้าหาคำตอบได้เองทันทีโดยไม่ต้องถามเรา
เรารอเราตอบ เขาก็ซื้อได้ทันทีเลย
หรือว่า เราเก็งคำถามไว้ แล้วก็มาตอบล่วงหน้าไว้ก็ได้
Custom Help Page
- ทาง Amazon ก็ให้โอกาส
เราสร้างหน้าส่วนตัวนอกเหนือจากที่มีอยู่ขึ้นมาได้เอง อยากใส่อะไร
อธิบายอะไรเพิ่ม ก็สร้างได้ที่หน้านี้ครับ สามารถ สร้างได้หลายหน้าด้วย
ผม
แนะนำ ให้มาใส่ข้อมูลที่นี่ไว้ด้วย จะมาสร้างทีหลัง
หรือก่อนลงสินค้าก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเรามีข้อมูลให้ลูกค้ามาก ๆ
ลูกค้าก็จะไว้ใจ ร้านเรามากกว่า ร้านที่โผล่มาก็ขาย ๆ อย่างเดียว
ยิ่งเป็นสินค้าไทย ๆ ก็ควรอธิบายให้มากด้วย
เพราะฝรั่งเขาไม่เข้าใจสินค้าไทยบางตัว หรือวิธีการทำ วัสดุ หรือ
จิตวิญญาณผู้ผลิต เหล่านี้ครับ เราอยู่กับสินค้ามาตั้งแต่เด็ก
เราคุ้นเคยกับมัน จนบางทีเราลืมความสำคัญของมันไปด้วยซ้ำ
ต่อไป ก็จะเข้าเรื่องการ list สินค้าขายกันซะที
ที่มา thaiseoboard.com
หมวดหมู่ของบทความ
การโดนลิมิต
(16)
การถ่ายรูปสินค้า
(5)
การลิสต์สินค้า
(12)
การส่งสินค้า
(23)
เกี่ยวกับร้านค้า store
(3)
เกี่ยวกับลูกค้า
(14)
ค่าธรรมเนียม
(7)
ซื้อของอีเบย์
(11)
ทั่วไปเกี่ยวกับอีเบย์
(29)
ทำความรู้จักกับอีเบย์
(12)
ประกาศจากอีเบย์
(9)
ปัญหาทั่วไป
(10)
เผยเทคนิคอีเบย์
(23)
เพพาล PayPal
(13)
มือใหม่
(13)
แม่แบบจดหมาย
(23)
เริ่มต้นธุรกิจแบบมืออาชีพ
(15)
สมัครเป็นคนขาย
(1)
ไอเดียขายสินค้า
(16)
amazon
(15)
etsy
(5)
feedback และ DSR
(14)
MC code แบบต่างๆ
(4)